ลูก ก็เปรียบเสมือนปฏิมากรรมชั้นยอดเยี่ยมของบุพการีและญาติมิตร ที่ผ่านมาทางเราพร้อมๆกับกรรมเก่าหรือสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ที่เราทุกคนต่างชื่นชมและหวงแหน และหากปฏิมากรรมนั้นได้รับความชื่นชมจากบุคคลอื่นที่พบเห็นด้วย ก็จะยิ่งสร้างความปลื้มปิติให้กับบุพการีและครอบครัว แต่ตรงกันข้ามหากปฏิมากรรมนั้นมีรอยขีดข่วนแม้เพียงนิดก็จะยังความเสียใจ เสียดาย และระทมทุกข์มาสู่บุพการีด้วยเช่นกัน บางครั้งบางคราโรงเรียนฯก็มีส่วนร่วมชื่นชมกับปฏิมากรรมชั้นยอดด้วยเช่นกัน และหลายครั้งก็ต้องร่วมปั้น เกลา กลึง ตบ ให้เข้ารูปเข้ารอย เพื่อความงดงาม มีสง่าราศีในชีวิตหนึ่งๆ
และหนึ่งในกระบวนการดังกล่าว การสอบและการประเมินกลางภาคก็เป็นส่วนหนึ่งของการกล่อมเกลาก็กำลังจะมาถึงในเวลาอันสั้นนี้ ซึ่งบ้างก็มีความพร้อม บ้างก็ยังไม่พร้อมขึ้นอยู่กับสติปัญญาและวินัยการเรียนรู้ของแต่ละคน จากประสบการณ์ของการเป็นครูมายาวนานพบว่าหากผู้ปกครองท่านใดที่มีความเข้าใจต่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิต และวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ลูก-หลานก็จะมีภาวะจิตใจที่ดี มั่นคง มั่นใจ ไม่หวั่นไหวง่าย มีน้ำใจ และเป็นที่รักของคนรอบข้าง แต่ตรงข้ามหากผู้ปกครองมีความคาดหวังสูง สร้างความกดดันให้กับลูกหลาน ขณะเดียวกันก็เกรงกลัวลูกหากขัดใจหรือเลี้ยงหลุดจากความเป็นธรรมชาติ ติดวัตถุนิยม หรือไม่ว่าด้วยวิธีการใด ลูก-หลานก็ดูเหมือนจะไม่ได้ดังใจ เพราะขาดความเชื่อมั่น หวั่นไหวง่าย เห็นแก่ตัว บางครั้งโกหกเก่งเพื่อเอาตัวรอด และมักไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต มักมีปัญหากับคนรอบข้างเสมอๆซึ่งเราต้องเร่งร่วมมือแก้ไขก่อนที่เด็กจะเติบโตไปและแก้ไขยากยิ่งขึ้น
ข่าวสารด้านสังคมปัจจุบัน พบว่าวัยรุ่นมีปัญหามากมายเหลือเกิน ทั้งก้าวร้าวทั้งไม่ยอมรับกติกาสังคม จนสร้างปัญหาดังที่ปรากฎทุกวัน เพราะปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดูที่รักจน ไร้ขอบเขตอย่างเดียวแต่ไม่วางกติกา(ซึ่งก็ไม่ผิด) และการเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ใหญ่ให้เด็กได้ซึมซับ ดังนั้นโรงเรียนของเราจึงมีความตั้งใจแน่วแน่ในการสร้างปราชญ์น้อยของเรา โดยมุ่งเน้นทักษะการดำเนินชีวิตที่ต้องสร้างวินัย ความอดทน หัวใจแกร่ง และจิตสาธารณะแต่วัยเด็ก ควบคู่กับทักษะวิชาการเสมอมา
สำหรับ “บอกกล่าว เล่าขาน” ฉบับนี้ขอแจ้งข่าวความเคลื่อนไหว และกำหนดการต่าง ๆ ของโรงเรียนและขอความร่วมมือ ดังนี้
1. ข่าวจากฝ่ายบริหาร
· การรับประเมินโรงเรียนคุณภาพมาตรฐานสากล โรงเรียนธีรธาดาฯ จะรับการประเมินฯ ในระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคมนี้ จากคณะกรรมการจากกระทรวงฯ ซึ่งเกณฑ์การประเมินละเอียดและสูงกว่ามาตรฐาน สมศ. พอสมควร ทั้งด้านผู้บริหาร ครูและผู้เรียน ทั้งนี้นักเรียนชั้น ป. 6, และ ม. 3 จะต้องทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติทั้งการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และอาจมีการสุ่มสอบถามจากผู้ปกครองบางท่านด้วยเช่นเดียวกัน
· ขอเชิญผู้ปกครองร่วมรับฟังรายงานฯและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูประจำชั้น เพื่อกระชับควมสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบ้านและโรงเรียนฯ ตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยม โดยมีกำหนดการดังนี้
“จิบน้ำชา เสวนากับคุณครู”เวลา 14.00 น. ณ ห้องเรียนอนุบาล
อนุบาล 1 : วันที่ 10 ก.ย. อนุบาล 2 : วันที่ 11 ก.ย. อนุบาล 3 : วันที่ 12 ก.ย.
“เปิดห้องเรียน แลกเปลี่ยนความคิด” ” เวลา 14.00 น.
ประถม 1 : วันที่21 ก.ค.ประถม 2 : วันที่ 22ก.ค. ประถม 3 : วันที่ 28ก.ค.
“พบครูของลูก ปลูกการเรียนรู้”เวลา 14.00 น.
ประถม 4 : วันที่ 22 ส.ค. ประถม 5 : วันที่ 5 ก.ย.ประถม 6 : วันที่ 1 ส.ค.
“พบคุณครู เตรียมลู่ทางเรียนต่อ”เวลา 14.00 น.
มัธยม 1 : วันที่ 22 ส.ค. มัธยม 2 : วันที่ 22 ส.ค. มัธยม 3 : วันที่ 15 ส.ค.
การพัฒนาเด็กด้วยการใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือ ต้องใช้ทั้งเวลา ความอดทน ความเข้าใจกันทั้งฝ่ายผู้ปกครองและโรงเรียนฯจึงจะเกิดผล ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการพัฒนาคนแต่ละคน จนกว่า จะเติบใหญ่ วิชาการอย่างเดียวก็ไม่สามารถพัฒนาได้ การเร่งรัดกดดัน ตั้งความหวังสูง ก็ทำให้ทุกข์ ทั้งผู้เรียน ผู้สอน รวมถึงทุกข์ของพ่อ-แม่ ผู้ปกครองด้วย ซึ่งฝ่ายบริหารเองก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามตรวจสอบและประเมินผลทุกระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเรียนพิเศษมากมาย แม้แต่ในโรงเรียนธีรธาดาเองก็ตาม ก็ขอให้เป็นไปเพราะท่านมีความจำเป็นจริงๆ เช่น เลิกงานเย็นไม่มีใครดูแล หรือเด็กคนนั้นมีปัญหาทา การเรียนรู้หรือขาดวินัยจริงๆ เท่านั้น เพราะการเรียนมากมายในห้องเรียน บางครั้งก็ไม่ส่งเสริมพัฒนาการ ของสมองและกระบวนการคิดอย่างคุ้มค่า ดังนั้นจึงขอให้ผู้ปกครองได้ตรวจสอบเด็กในความดูแล ถ้ายังพบว่าพัฒนาการไม่เป็นไปอย่างที่ควรเป็น ทั้งด้านวิชาการและความรับผิดชอบ ขอให้หยุดเรียนทันที และแจ้ง ฝ่ายบริหาร ในการติดตามสาเหตุต่อไป
ปัญหาที่พบเสมอมาคือจะมีนักเรียนที่ผลการเรียนไม่ดีนัก อันเนื่องมาจากไม่ค่อยใส่ใจ และไม่ให้ความร่วมมือในเวลาเรียน มักจะขอผู้ปกครองไปเรียนพิเศษภายนอกเพราะสามารถต่อรองได้ และไม่ถูกจี้และกำกับการฝึกการทำแบบฝึกหัดเท่ากับครูในโรงเรียนฯ และในที่สุดก็ไม่ไปเรียน หนีเรียน สร้างทั้งปัญหาให้ผู้ปกครอง และที่สำคัญทำให้โรงเรียนฯ เสื่อมเสียภาพลักษณ์เพราะพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมเหล่านี้ โรงเรียนฯ ขอยืนยันว่าโรงเรียนฯ มีครูที่มีความพร้อมในวิชาหลักๆ ทุกวิชาที่จะช่วยเหลือนักเรียนที่สนใจและใส่ใจอย่างแท้จริงให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้ โดยไม่ต้องออกไปกวดวิชาภายนอกให้เสียเวลา สร้างปัญหา ใดๆ
และเช่นกันด้วยปัญหาดังกล่าวประกอบกับโรงเรียนฯได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองใช้ประตู 3 เพื่อรับนักเรียน กลับส่งผลให้มีนักเรียนบางกลุ่มใช้โอกาสนี้หลบเลี่ยง แอบใช้โทรศัพท์นัดแนะ ให้ผู้มารับ-ส่งโดยใช้ประตู 3 ในช่วงที่นักเรียนอนุบาลและประถมเลิกเรียน ซึ่งมีผู้ปกครอง-นักเรียน พลุกพล่านบางครั้งมิใช่ผู้ปกครองโดยตรงทำให้ยากต่อการดูแลความปลอดภัย ดังนั้นนับจากนี้ไปโรงเรียนจะปิดประตูเชื่อมระหว่างอาคารเคมบริดจ์และสนามเทนนิส และขอความกรุณาผู้ปกครอง ได้นั่งรอด้านทางเข้าหอพักเคมบริดจ์ฯ-ธีรธาดาตลอดทางเดิน ซึ่งมีที่นั่งเพียงพอ และมีครูดูแลนักเรียนในบริเวณที่อยู่ในสายตาของครูเวรได้ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยทั้งมวล ส่วนการเล่นฟุตบอลในฤดูที่อากาศร้อนนี้ขอให้ระงับไปก่อน จนกว่าจะจัดระบบด้านความปลอดภัยได้
2. ข่าวจากฝ่ายวิชาการ
· เว็บไซต์ ที่ผู้ปกครองสามารถติดตามได้ คือ :
1 เว็บไซต์ข้อมูลทั่วไปและข่าวสาร ของโรงเรียนฯ สามารถติดตามได้จาก
2เว็บไซต์สำหรับครู-นักเรียนเพื่อการเรียนรู้ ฝึกฝน และการสั่งงานระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ติดตามได้จาก www.teeratadakm.net ผู้ปกครองเข้าเช็คการบ้านที่ครูสั่งเด็กได้ในระดับแรก แต่กรณีนักเรียนจะเข้าฝึกฝนนักเรียนต้องใช้ Password คือหมายเลขประจำตัวและตามด้วยเลข 13 หลักเท่านั้น
3 เว็บไซด์ www.schoology.com เป็นเว็บไซด์ ระหว่างครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง ที่ใช้สื่อสารงานได้ทั้งการเขียนและการตรวจให้ความเห็นได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาและหากชั้นใดมีความพร้อมก็จะเริ่มใช้ได้
· การขับเคลื่อนความสามารถภาษาอังกฤษ นักเรียนตั้งแต่ประถมปลาย–มัธยม ทุกคน จะได้รับงานการฝึกเขียนให้มากขึ้นกว่าปกติทั้งเขียนภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่เป็นเรียงความ และการฝึกพูดต่อหน้าชุมชนอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสั่งสมประสบการณ์การพูด การใช้ปฎิภาณ ไหวพริบในการโต้ตอบ และการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษอย่างสร้างสรรค์แต่การนี้ต้องให้เด็กรู้จักคำศัพท์มากขึ้นจากการอ่าน การฟัง และการฝึกใช้จริง เด็กบางคนที่ไม่สู้อาจท้อและเครียดเพราะสบายมาจนเคยตัว แต่เด็กที่สู้ก็จะประสบความสำเร็จอย่างภาคภูมิใจ
ปัญหาที่พบคือเด็กไทยส่วนใหญ่จะพูดไร้สาระ พูดโดยไม่เกรงใจใครว่ารบกวนใครไหม หรือไม่สนใจว่าจะมีคนฟังหรือไม่ แม้กระทั่งการเดินแถวหรือเข้า-ออกห้องประชุมภาคเช้า (ซึ่งโรงเรียนฯแห่งนี้ใช้เสียงดนตรีกำกับพฤติกรรมการเดินเข้าห้องประชุมภาคเช้ามานับแต่เปิดดำเนินการ) ช่วงหยุดพูดของเด็กคือง่วงแล้วหลับหรือช่วงที่เคี้ยวอาหารเท่านั้น ทำให้ขาดการสังเกตุและเสียโอกาสการเรียนรู้ โดยเฉพาะกับครูต่างชาติซึ่งเด็กไทยไม่ค่อยเกรงใจ โดยเฉพาะระดับประถมปลายและมัธยมฯ ดังนั้นในช่วงเวลาภาคเรียนนี้จึงเป็นช่วงของการปรับพฤติกรรมของนักเรียนไปควบคู่กับการเรียนการสอน จึงขอความร่วมมือจากผู้ปกครองทุกท่านได้ร่วมจัดระเบียบวินัยให้ลูก-หลานไปพร้อมกับโรงเรียนฯ ด้วย
· วันภาษาไทย ที่ 29 กรกฎาคม เป็นวันปลุกจิตสำนึกของความเป็นไทย และการใช้ภาษาไทย เพื่อเป็นการสร้างสีสันจึงเชิญชวนให้ครูและนักเรียนแต่งกายด้วยชุดไทยยุคต่างๆ ตามแต่ที่หาได้ และแต่งได้อย่างปกติและภาคภูมิใจที่เกิดเป็นไทย รู้จักเครื่องแต่งกายแบบไทยๆ
·
การบ้าน นักเรียนทุกคนจะมีการบ้านเป็นเครื่องมือในการฝึกฝนความรับผิดชอบต่อหน้าที่พื้นฐาน และเช่นกันหากพบว่า“การบ้าน”ที่นักเรียนได้รับไป ท่านพิจารณาแล้วเป็น“การบ้านที่ไม่มีคุณภาพ”หรือ “มาก หรือน้อย เกินไป” โดยสังเกตจาก “เวลาที่เด็กใช้ทำ” กล่าวคือโรงเรียนฯ จะอบรมเด็กเรื่องการใช้เวลาเรียนรู้ด้วยตัวเองหรือทำการบ้านด้วยตนเองทุกวันไม่ว่าวันหยุดหรือวันธรรมดา อย่างน้อย “1 ชม. สำหรับเด็กประถมฯ” และ “ 2 ชม.สำหรับเด็กมัธยมฯ”หากว่าเด็กทำโดยตั้งใจ ไม่ทำไปเล่นไปเมื่อครบตามเวลาแล้วไม่เสร็จ และได้เวลานอนแล้ว ผู้ปกครองให้เด็กหยุดทำและเซ็นรับรองว่าเด็กทำเต็มที่แล้วแต่ไม่เสร็จ หรือไม่เข้าใจ ทำไม่ได้ ก็ให้เด็กชี้แจง หรือท่านจะเขียนสื่อแจ้งกลับมาโรงเรียนฯ ผู้สอนจะได้ทราบว่าเด็กไม่เข้าใจ จะได้หาวิธีปรับวิธีการสอนให้ต่อไป มิใช่เด็กทำครบเสร็จและถูกต้องมาทุกครั้งเพราะผู้ปกครองสอนมา ผู้สอนก็อาจเข้าใจได้ว่าแผน / สื่อ / การอธิบายของตนดีแล้ว จึงขอความกรุณาผู้ปกครองได้สะท้อนความเห็นมายังผู้บริหารด้วย ถือเป็นการช่วยตรวจสอบได้อย่างทั่วถึง
· มาตรฐานการจบช่วงชั้น โรงเรียนฯ ได้กำหนดมาตรฐานการจบช่วงชั้นไว้อย่างเป็นระบบ ดังได้แจ้งท่านตั้งแต่วันประชุมผู้ปกครองแรกเข้า และโรงเรียนฯ ขอเรียนว่า โรงเรียนฯ ใส่ใจที่จะผลักดันให้นักเรียนปฏิบัติให้ได้ตามที่กำหนด โดยเฉพาะเมื่อจบชั้น ป.6 และ ม.3 ซึ่งยังมีนักเรียนที่น่าห่วงอยู่หลายคนที่ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจแต่เล็กและขาดความร่วมมือในการร่วมแก้ไขจากผู้ปกครอง ซึ่งส่งผลให้เห็นชัดเจนเมื่อขึ้นสู่ชั้นสูงขึ้น คือขาดวินัย ความรับผิดชอบ และแรงขับสู่ความสำเร็จจากภายใน ตลอดจนความสามารถในการสู้อุปสรรคชีวิต ก็ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองที่ลูกยังเล็ก และยังไม่เริ่มต้นฝึกฝนวินัยตามวัยให้กับลูก
· วันหยุด เนื่องในวันสำคัญทางพุทธศาสนาทุกครั้ง นักเรียนที่นับถือศาสนาพุทธ จะมีใบงานเชิญชวนพ่อ-แม่-ผู้มีพระคุณเข้าวัด ส่วนเด็กศาสนาอื่นก็ไปตามข้อกำหนดของศาสนาตนเอง ขอได้ให้การสนับสนุนบุตร-หลาน สร้างกุศลผลบุญให้หนุนนำในการทำความดีด้วย จักขอบคุณยิ่ง
· การสอนลูก-หลานให้รู้สิ่งที่ต้องรู้ พบว่าเด็กปัจจุบันขาดการสังเกต เอาแต่ใจ ทำตัวน่ารักเมื่ออยู่ต่อหน้าครูแต่พยศกับพ่อ-แม่และผู้มีพระคุณ อีกทั้งขาดสัญชาตญาณการระแวงภัยซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทั้งบ้านและโรงเรียนฯต้องเอาใจใส่และฝึกฝน บางคนไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อจริงของพ่อแม่ ไม่รู้ว่าพ่อ-แม่ประกอบอาชีพอะไร เลขที่บ้านอะไร ถนนอะไร เบอร์โทรศัพท์ของพ่อ-แม่เบอร์อะไร ทั้งที่อยู่ในวัย ที่ควรรู้แล้วฯลฯ ตลอดถึงเรื่องมารยาทการรับประทานอาหาร การคดข้าวใส่จาน การรู้จักรอคอย การเก็บโต๊ะอาหาร ซึ่งโรงเรียนฯได้มีการประเมินเป็นระยะ ก็ขอผู้ปกครองให้ลองประเมินลูก-หลานร่วมกันด้วย
3. ข่าวจากฝ่ายปกครอง/กิจกรรม
· สื่อสารโรงเรียนฯ – บ้าน โดยปกติโรงเรียนฯจะรายงานภาพรวมของการดำเนินงานด้านต่างๆ ผ่านสื่อ “บอกกล่าว เล่าขาน” เดือนละ 1 ครั้ง ส่วนสื่อรายคนผู้สอนจะเป็นผู้รายงาน หากท่านไม่ได้รับการรายงานนานกว่า 2 สัปดาห์ต่อครั้งท่านสามารถสอบถามตรงมายังฝ่ายบริหารได้เช่นเดียวกันเพราะโรงเรียนฯ ถือเป็น“หน้าที่ของผู้สอนที่ต้องรายงาน” และ “สิทธิในการรับรู้ของผู้ปกครอง” เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน ซึ่งผู้สอนจะรายงานทั้งด้านพฤติกรรมการเรียน ผลการเรียน เนื้อหาการเรียนหรือเนื้อหาที่เด็กจะสอบแต่ละครั้งไม่ว่าสอบเก็บคะแนนหรือสอบประจำภาคและอื่น ๆ ที่ควรรายงาน และหากผู้ปกครองได้รับแล้วมีข้อเสนอแนะ ก็จักขอบคุณยิ่ง ถ้าไม่มีก็ขอเพียงลายเซ็นก็ขอบคุณเช่นกัน
· รังสรรค์อาภรณ์ประดับกายในวัยอันเหมาะสม นอกเหนือจากความสามารถทางวิชาการตามวัยแล้ว การเตรียมพร้อมสั่งสมความสามารถพิเศษ เช่น ดนตรี กีฬา และความสามารถอื่นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเด็กจะได้ทั้งวินัย ความอดทน ความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะการเรียนเปียโนและไวโอลิน ที่โรงเรียนฯมีครูที่เชี่ยวชาญและจบจากสถาบันด้านดนตรีอันดับหนึ่งของประเทศโดยตรง หากสนใจให้ลูกหลานเรียนเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
· การจราจรในโรงเรียนฯ ต้องขออภัยสำหรับความไม่สะดวกในระยะนี้ ที่มีการปรับเปลี่ยนสถานที่ส่งเด็กเป็นระยะ โดยปกติอนุบาล-ประถมต้นจะรอที่ประตู 1 และ ประถมปลาย–มัธยมจะรอที่หน้าอาคารเคมบริดจ์ฯ แต่อย่างไรก็ดีขอความกรุณาผู้ปกครองตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยม ดังนี้
* นัดหมายสถานที่กับเด็กให้ชัดว่าเป็นด้านโรงเรียนนานาชาติเคมบริดจ์ฯ หรือประตู 1
* จอดรถตรงที่ให้จอด และเข้าซองให้ถูกต้อง ไม่จอดรถหัวมุมเลี้ยว หรือเกะกะทางรถคันอื่น
* เปิดกระจกให้ครู-เด็กมองเห็นหน้า เมื่อขับมาระยะที่จะรับเด็ก
* ฝึกเด็กให้จำรถของตนให้ได้ เช่น ยี่ห้อ สีและที่สำคัญคือหมายเลขทะเบียนรถ
* เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ต้องนั่งเบาะหลัง และรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
* ปิดประตูรถให้เรียบร้อย ก่อนออกรถ โดยเฉพาะรถที่รับเด็กเล็ก
4. ข่าวสำหรับผู้ปกครองระดับอนุบาล ทั้ง 2แห่ง
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีที่ท่านให้เราได้มีโอกาสวางรากฐานที่จำเป็นสำหรับเด็กแต่เยาว์วัยอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่ากว่าเราจะเก็บเกี่ยวผลแห่งการบ่มเพาะอย่างอดทนนั้น ก็ยาวนานพอสมควร เด็กเล็กเป็นเหมือนผ้าขาว ที่พร้อมจะซึมซับและเรียนรู้ทุกเรื่องจากการกระทำของผู้ใหญ่ที่ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง แม้บางครั้งเราจะคิดว่าเจ้าตัวไม่รู้ ดังนั้นในส่วนของโรงเรียนฯที่ต้องเตรียมความพร้อมของเด็ก หมายถึงการเตรียมให้พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างงดงามพร้อมเลื่อนชั้นไประดับประถมฯได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม จึงขอความร่วมมือในเรื่องจำเป็นๆเบื้องต้นดังนี้ :
- การมาส่งไม่ควรสายเกิน 08.10 น. เพราะ เป็นเวลาที่เด็กต้องเรียนรู้และฝึกฝนพัฒนาการด้านร่างกายและระเบียบวินัย และการอยู่ร่วมกับเพื่อน เพราะการมาสายนอกจากเด็กขาดโอกาสการฝึกฝนดังกล่าวแล้ว ยังเสี่ยงต่อการที่ครูต้องเปิดประตูทิ้งไว้อาจเป็นเหตุที่มาของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะปฐมวัยฯ
- เมื่ออยู่ที่บ้าน ไม่ควรป้อนข้าวเด็ก เด็ก 3 ขวบแล้ว ต้องสามารถรับประทานอาหารเองได้ เพราะมิได้หมายความเพียงการช่วยเหลือตนเองเท่านั้น หากแต่คือการพัฒนาประสาททุกส่วนอย่างสัมพันธ์กัน และเวลารับประทานอาหารต้องฝึกให้นั่งกับที่ เริ่มแรกอาจหกเลอะเทอะบ้าง แต่ในที่สุดจะพัฒนาได้ดี
- ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา ตื่นเช้าต้องฝึกให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย รวมถึงการควบคุมการปัสสาวะในเวลานอนด้วย ควรให้ปัสสาวะก่อนนอน และปลุกเมื่อได้เวลาที่ควร ไม่ควรปล่อยให้ปัสสาวะรดที่นอนจนเคยตัว เพราะในที่สุดแล้วจะเป็นปมด้อยกับตัวเด็กเอง เพราะเพื่อนๆรุ่นเดียวกันควบคุมได้
- หัดแต่งกายเอง เช่น การติดกระดุมเสื้อ การสวมรองเท้า การสวมเสื้อและกางเกง-กระโปรงการรูดซิป ด้วยตนเอง เราจะพบความพยามยามความอดทน ของเด็กจากการสังเกตเรื่องการแต่งกายได้โดยง่าย ระหว่างเด็กที่มีความพยายามกับเด็กที่ใจร้อนและไม่มีความอดทน
- หัดให้เล่นแล้วรู้จักเก็บของเล่นเอง เพื่อฝึกความรับผิดชอบและจดจำของเล่น/ของใช้ของตนเอง และเห็นค่าของๆ เล่น
- ไม่นำของเล่นหรืออุปกรณ์ใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนมาโรงเรียนฯ และแบกหรือลากกระเป๋าหนักมาโรงเรียน เพราะโรงเรียนฯได้จัดเตรียมให้หมดแล้ว หากจะนำมาเพื่อใส่หนังสือนิทาน / ชุดว่ายน้ำ ก็ให้เล็กพอเหมาะกับการถือของเด็ก
- ผู้ปกครองควรหารือกับครูเป็นระยะหากพบว่ามีปัญหาเพื่อจะได้ร่วมแก้ปัญหาด้วยกัน แต่ทั้งนี้ควรนัดหมายก่อน เพื่อให้ผู้บริหารได้จัดครูลงแทนในขณะครูผู้สอนได้พูดคุยกับผู้ปกครอง เพราะการดูแลเด็กระดับอนุบาลนั้น เราไม่สามารถละสายตาไปทำกิจกรรมอื่นได้ ครูต้องตามติดและอยู่กับเด็กตลอดเวลา
5. ข่าวจากฝ่ายแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศQQQQ
ฝ่ายแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ กำลังเปิดรับสมัครนักเรียนเข้าร่วมโครงการฯ มีนาคม-เมษายน2558 ซึ่งหากผู้ปกครองได้ร่วมตัดสินใจกับเด็กและสมัครก่อนแต่เนิ่นๆ การวางแผนเรื่องโปรแกรม ตลอดจนการต่อรองเรื่องต่างๆ ก็จะได้ประโยชน์ต่อเด็กมาก ทั้งเรื่องค่าตั๋วเดินทาง โปรแกรม และการเลือกสถานที่เรียนทั้งนี้ผู้ปกครองที่มีความพร้อม การสร้างโอกาสให้ลูก-หลานได้เห็นโลกกว้างมากเท่าใด ก็จะเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และการเรียนรู้ เป็นพื้นฐานในการสร้างวิสัยทัศน์และสร้างความมั่นใจให้กับเด็กอย่างได้ผล แต่หากไม่พร้อมก็ไม่ใช่ปัญหาแต่ประการใดซึ่งมีโปรแกรมแต่ละประเทศดังนี้
· ประเทศจีน เรียนที่เมืองคุนหมิงรับจำนวน 20 คนเท่านั้น พักหอพักในโรงเรียน
· ประเทศอังกฤษหรือนิวซีแลนด์ระยะเวลา 4สัปดาห์ พักกับครอบครัว ช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน รายละเอียดจะแจ้งต่อไป
ผู้สนใจ ติดต่อขอใบสมัคร ได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
Jขอแสดงความยินดีกับนักเรียนและครูผู้สอนJ
<รางวัลยอดนักอ่านและผู้ใช้ห้องสมุดสูงสุด ประจำเดือน มิถุนายน 2557
1. เด็กชายอมร ปัญญาสันติสุข ชั้นป.6
2. เด็กหญิงทักษพร เลิศสัมพันธ์สุข ชั้น ป.3
3. เด็กชายศิรสิทธิ์ ไพรอุดม ชั้น ป.3
<ครูผู้สอนดีเด่น วิชาภาษาไทย ประจำปีการศึกษา 2557 จากคุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ซึ่งได้รับการคัดเลือกจำนวน 10 ราย จาก 11 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งมีครูโรงเรียนธีรธาดา พิษณุโลก ที่ได้รับการคัดเลือก
ได้แก่ นางสาวยุพิน เหล็กช้าง( ครูประจำชั้น ป.1 )
JJJJพบกันใหม่ฉบับหน้าNNNN
Theme by Danetsoft and Danang Probo Sayekti inspired by Maksimer