บอกกล่าวเล่าขาน ประจำเดือน กรกฎาคม 2557

              ลูก ก็เปรียบเสมือนปฏิมากรรมชั้นยอดเยี่ยมของบุพการีและญาติมิตร ที่ผ่านมาทางเราพร้อมๆกับกรรมเก่าหรือสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ที่เราทุกคนต่างชื่นชมและหวงแหน  และหากปฏิมากรรมนั้นได้รับความชื่นชมจากบุคคลอื่นที่พบเห็นด้วย ก็จะยิ่งสร้างความปลื้มปิติให้กับบุพการีและครอบครัว แต่ตรงกันข้ามหากปฏิมากรรมนั้นมีรอยขีดข่วนแม้เพียงนิดก็จะยังความเสียใจ  เสียดาย และระทมทุกข์มาสู่บุพการีด้วยเช่นกัน  บางครั้งบางคราโรงเรียนฯก็มีส่วนร่วมชื่นชมกับปฏิมากรรมชั้นยอดด้วยเช่นกัน  และหลายครั้งก็ต้องร่วมปั้น เกลา กลึง  ตบ ให้เข้ารูปเข้ารอย  เพื่อความงดงาม มีสง่าราศีในชีวิตหนึ่งๆ

และหนึ่งในกระบวนการดังกล่าว การสอบและการประเมินกลางภาคก็เป็นส่วนหนึ่งของการกล่อมเกลาก็กำลังจะมาถึงในเวลาอันสั้นนี้ ซึ่งบ้างก็มีความพร้อม บ้างก็ยังไม่พร้อมขึ้นอยู่กับสติปัญญาและวินัยการเรียนรู้ของแต่ละคน จากประสบการณ์ของการเป็นครูมายาวนานพบว่าหากผู้ปกครองท่านใดที่มีความเข้าใจต่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิต และวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ลูก-หลานก็จะมีภาวะจิตใจที่ดี  มั่นคง  มั่นใจ ไม่หวั่นไหวง่าย มีน้ำใจ และเป็นที่รักของคนรอบข้าง  แต่ตรงข้ามหากผู้ปกครองมีความคาดหวังสูง สร้างความกดดันให้กับลูกหลาน ขณะเดียวกันก็เกรงกลัวลูกหากขัดใจหรือเลี้ยงหลุดจากความเป็นธรรมชาติ ติดวัตถุนิยม หรือไม่ว่าด้วยวิธีการใด ลูก-หลานก็ดูเหมือนจะไม่ได้ดังใจ เพราะขาดความเชื่อมั่น หวั่นไหวง่าย  เห็นแก่ตัว บางครั้งโกหกเก่งเพื่อเอาตัวรอด  และมักไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต  มักมีปัญหากับคนรอบข้างเสมอๆซึ่งเราต้องเร่งร่วมมือแก้ไขก่อนที่เด็กจะเติบโตไปและแก้ไขยากยิ่งขึ้น

 

          ข่าวสารด้านสังคมปัจจุบัน พบว่าวัยรุ่นมีปัญหามากมายเหลือเกิน ทั้งก้าวร้าวทั้งไม่ยอมรับกติกาสังคม จนสร้างปัญหาดังที่ปรากฎทุกวัน เพราะปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดูที่รักจน  ไร้ขอบเขตอย่างเดียวแต่ไม่วางกติกา(ซึ่งก็ไม่ผิด) และการเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ใหญ่ให้เด็กได้ซึมซับ ดังนั้นโรงเรียนของเราจึงมีความตั้งใจแน่วแน่ในการสร้างปราชญ์น้อยของเรา โดยมุ่งเน้นทักษะการดำเนินชีวิตที่ต้องสร้างวินัย ความอดทน หัวใจแกร่ง และจิตสาธารณะแต่วัยเด็ก ควบคู่กับทักษะวิชาการเสมอมา 

 

 

           สำหรับ   “บอกกล่าว  เล่าขาน”  ฉบับนี้ขอแจ้งข่าวความเคลื่อนไหว   และกำหนดการต่าง ๆ ของโรงเรียนและขอความร่วมมือ  ดังนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

1.   ข่าวจากฝ่ายบริหาร

 

 

·       การรับประเมินโรงเรียนคุณภาพมาตรฐานสากล โรงเรียนธีรธาดาฯ จะรับการประเมินฯ ในระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคมนี้  จากคณะกรรมการจากกระทรวงฯ ซึ่งเกณฑ์การประเมินละเอียดและสูงกว่ามาตรฐาน สมศ. พอสมควร ทั้งด้านผู้บริหาร ครูและผู้เรียน  ทั้งนี้นักเรียนชั้น ป. 6, และ ม. 3 จะต้องทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติทั้งการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และอาจมีการสุ่มสอบถามจากผู้ปกครองบางท่านด้วยเช่นเดียวกัน 

 

 

·       ขอเชิญผู้ปกครองร่วมรับฟังรายงานฯและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูประจำชั้น เพื่อกระชับควมสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบ้านและโรงเรียนฯ  ตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยม  โดยมีกำหนดการดังนี้

 

 

 

 “จิบน้ำชา  เสวนากับคุณครูเวลา  14.00 น.   ณ  ห้องเรียนอนุบาล    

 

 

 

 

          อนุบาล  1 :   วันที่   10  ก.ย.    อนุบาล 2 : วันที่   11   ก.ย. อนุบาล 3 :  วันที่  12  ก.ย.

 

 

 

 

เปิดห้องเรียน  แลกเปลี่ยนความคิด  ”  เวลา 14.00 น.  

 

 

 

 

          ประถม  1 : วันที่21  ก.ค.ประถม 2 : วันที่  22ก.ค.  ประถม 3 :  วันที่  28ก.ค.

 

 

 

 

พบครูของลูก  ปลูกการเรียนรู้เวลา 14.00 น.

 

 

 

 

          ประถม  4 : วันที่   22  ส.ค.   ประถม 5 : วันที่   5  ก.ย.ประถม 6 :  วันที่   1  ส.ค.

 

 

 

 

พบคุณครู   เตรียมลู่ทางเรียนต่อเวลา 14.00 น.

 

 

 

 

          มัธยม  1 : วันที่   22  ส.ค.  มัธยม  2 : วันที่   22  ส.ค.   มัธยม  3 :  วันที่    15   ส.ค.

 

 

      การพัฒนาเด็กด้วยการใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือ  ต้องใช้ทั้งเวลา  ความอดทน  ความเข้าใจกันทั้งฝ่ายผู้ปกครองและโรงเรียนฯจึงจะเกิดผล  ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการพัฒนาคนแต่ละคน จนกว่า    จะเติบใหญ่  วิชาการอย่างเดียวก็ไม่สามารถพัฒนาได้  การเร่งรัดกดดัน  ตั้งความหวังสูง  ก็ทำให้ทุกข์ ทั้งผู้เรียน ผู้สอน รวมถึงทุกข์ของพ่อ-แม่ ผู้ปกครองด้วย ซึ่งฝ่ายบริหารเองก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามตรวจสอบและประเมินผลทุกระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเรียนพิเศษมากมาย แม้แต่ในโรงเรียนธีรธาดาเองก็ตาม ก็ขอให้เป็นไปเพราะท่านมีความจำเป็นจริงๆ เช่น เลิกงานเย็นไม่มีใครดูแล หรือเด็กคนนั้นมีปัญหาทา  การเรียนรู้หรือขาดวินัยจริงๆ เท่านั้น  เพราะการเรียนมากมายในห้องเรียน บางครั้งก็ไม่ส่งเสริมพัฒนาการ  ของสมองและกระบวนการคิดอย่างคุ้มค่า  ดังนั้นจึงขอให้ผู้ปกครองได้ตรวจสอบเด็กในความดูแล  ถ้ายังพบว่าพัฒนาการไม่เป็นไปอย่างที่ควรเป็น ทั้งด้านวิชาการและความรับผิดชอบ ขอให้หยุดเรียนทันที และแจ้ง ฝ่ายบริหาร ในการติดตามสาเหตุต่อไป

 

     ปัญหาที่พบเสมอมาคือจะมีนักเรียนที่ผลการเรียนไม่ดีนัก อันเนื่องมาจากไม่ค่อยใส่ใจ และไม่ให้ความร่วมมือในเวลาเรียน  มักจะขอผู้ปกครองไปเรียนพิเศษภายนอกเพราะสามารถต่อรองได้ และไม่ถูกจี้และกำกับการฝึกการทำแบบฝึกหัดเท่ากับครูในโรงเรียนฯ และในที่สุดก็ไม่ไปเรียน  หนีเรียน  สร้างทั้งปัญหาให้ผู้ปกครอง และที่สำคัญทำให้โรงเรียนฯ เสื่อมเสียภาพลักษณ์เพราะพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมเหล่านี้  โรงเรียนฯ ขอยืนยันว่าโรงเรียนฯ มีครูที่มีความพร้อมในวิชาหลักๆ ทุกวิชาที่จะช่วยเหลือนักเรียนที่สนใจและใส่ใจอย่างแท้จริงให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้ โดยไม่ต้องออกไปกวดวิชาภายนอกให้เสียเวลา  สร้างปัญหา ใดๆ

 

 

 

    และเช่นกันด้วยปัญหาดังกล่าวประกอบกับโรงเรียนฯได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองใช้ประตู 3 เพื่อรับนักเรียน กลับส่งผลให้มีนักเรียนบางกลุ่มใช้โอกาสนี้หลบเลี่ยง  แอบใช้โทรศัพท์นัดแนะ ให้ผู้มารับ-ส่งโดยใช้ประตู 3 ในช่วงที่นักเรียนอนุบาลและประถมเลิกเรียน ซึ่งมีผู้ปกครอง-นักเรียน พลุกพล่านบางครั้งมิใช่ผู้ปกครองโดยตรงทำให้ยากต่อการดูแลความปลอดภัย ดังนั้นนับจากนี้ไปโรงเรียนจะปิดประตูเชื่อมระหว่างอาคารเคมบริดจ์และสนามเทนนิส และขอความกรุณาผู้ปกครอง ได้นั่งรอด้านทางเข้าหอพักเคมบริดจ์ฯ-ธีรธาดาตลอดทางเดิน ซึ่งมีที่นั่งเพียงพอ  และมีครูดูแลนักเรียนในบริเวณที่อยู่ในสายตาของครูเวรได้  ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยทั้งมวล  ส่วนการเล่นฟุตบอลในฤดูที่อากาศร้อนนี้ขอให้ระงับไปก่อน  จนกว่าจะจัดระบบด้านความปลอดภัยได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

2. ข่าวจากฝ่ายวิชาการ

 

 

·     เว็บไซต์ ที่ผู้ปกครองสามารถติดตามได้ คือ :

1 เว็บไซต์ข้อมูลทั่วไปและข่าวสาร ของโรงเรียนฯ สามารถติดตามได้จาก

www.teeratada.ac.th

 

 

 

2เว็บไซต์สำหรับครู-นักเรียนเพื่อการเรียนรู้  ฝึกฝน และการสั่งงานระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ติดตามได้จาก www.teeratadakm.net ผู้ปกครองเข้าเช็คการบ้านที่ครูสั่งเด็กได้ในระดับแรก แต่กรณีนักเรียนจะเข้าฝึกฝนนักเรียนต้องใช้ Password คือหมายเลขประจำตัวและตามด้วยเลข 13 หลักเท่านั้น

 

 

3 เว็บไซด์ www.schoology.com  เป็นเว็บไซด์ ระหว่างครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง ที่ใช้สื่อสารงานได้ทั้งการเขียนและการตรวจให้ความเห็นได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาและหากชั้นใดมีความพร้อมก็จะเริ่มใช้ได้

 

·     การขับเคลื่อนความสามารถภาษาอังกฤษ นักเรียนตั้งแต่ประถมปลาย–มัธยม ทุกคน จะได้รับงานการฝึกเขียนให้มากขึ้นกว่าปกติทั้งเขียนภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่เป็นเรียงความ  และการฝึกพูดต่อหน้าชุมชนอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสั่งสมประสบการณ์การพูด การใช้ปฎิภาณ ไหวพริบในการโต้ตอบ และการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษอย่างสร้างสรรค์แต่การนี้ต้องให้เด็กรู้จักคำศัพท์มากขึ้นจากการอ่าน  การฟัง และการฝึกใช้จริง เด็กบางคนที่ไม่สู้อาจท้อและเครียดเพราะสบายมาจนเคยตัว  แต่เด็กที่สู้ก็จะประสบความสำเร็จอย่างภาคภูมิใจ

 

 

    ปัญหาที่พบคือเด็กไทยส่วนใหญ่จะพูดไร้สาระ พูดโดยไม่เกรงใจใครว่ารบกวนใครไหม หรือไม่สนใจว่าจะมีคนฟังหรือไม่ แม้กระทั่งการเดินแถวหรือเข้า-ออกห้องประชุมภาคเช้า (ซึ่งโรงเรียนฯแห่งนี้ใช้เสียงดนตรีกำกับพฤติกรรมการเดินเข้าห้องประชุมภาคเช้ามานับแต่เปิดดำเนินการ) ช่วงหยุดพูดของเด็กคือง่วงแล้วหลับหรือช่วงที่เคี้ยวอาหารเท่านั้น  ทำให้ขาดการสังเกตุและเสียโอกาสการเรียนรู้ โดยเฉพาะกับครูต่างชาติซึ่งเด็กไทยไม่ค่อยเกรงใจ โดยเฉพาะระดับประถมปลายและมัธยมฯ ดังนั้นในช่วงเวลาภาคเรียนนี้จึงเป็นช่วงของการปรับพฤติกรรมของนักเรียนไปควบคู่กับการเรียนการสอน จึงขอความร่วมมือจากผู้ปกครองทุกท่านได้ร่วมจัดระเบียบวินัยให้ลูก-หลานไปพร้อมกับโรงเรียนฯ ด้วย

 

·     วันภาษาไทย ที่ 29 กรกฎาคม  เป็นวันปลุกจิตสำนึกของความเป็นไทย และการใช้ภาษาไทย เพื่อเป็นการสร้างสีสันจึงเชิญชวนให้ครูและนักเรียนแต่งกายด้วยชุดไทยยุคต่างๆ ตามแต่ที่หาได้ และแต่งได้อย่างปกติและภาคภูมิใจที่เกิดเป็นไทย รู้จักเครื่องแต่งกายแบบไทยๆ 

 

 

 

 

 

 

 

 

·    

     การบ้าน นักเรียนทุกคนจะมีการบ้านเป็นเครื่องมือในการฝึกฝนความรับผิดชอบต่อหน้าที่พื้นฐาน และเช่นกันหากพบว่าการบ้านที่นักเรียนได้รับไป ท่านพิจารณาแล้วเป็นการบ้านที่ไม่มีคุณภาพหรือ มาก หรือน้อย เกินไป โดยสังเกตจาก เวลาที่เด็กใช้ทำ กล่าวคือโรงเรียนฯ จะอบรมเด็กเรื่องการใช้เวลาเรียนรู้ด้วยตัวเองหรือทำการบ้านด้วยตนเองทุกวันไม่ว่าวันหยุดหรือวันธรรมดา อย่างน้อย “1 ชม. สำหรับเด็กประถมฯ และ “ 2 ชม.สำหรับเด็กมัธยมฯหากว่าเด็กทำโดยตั้งใจ  ไม่ทำไปเล่นไปเมื่อครบตามเวลาแล้วไม่เสร็จ และได้เวลานอนแล้ว  ผู้ปกครองให้เด็กหยุดทำและเซ็นรับรองว่าเด็กทำเต็มที่แล้วแต่ไม่เสร็จ หรือไม่เข้าใจ ทำไม่ได้ ก็ให้เด็กชี้แจง หรือท่านจะเขียนสื่อแจ้งกลับมาโรงเรียนฯ  ผู้สอนจะได้ทราบว่าเด็กไม่เข้าใจ จะได้หาวิธีปรับวิธีการสอนให้ต่อไป มิใช่เด็กทำครบเสร็จและถูกต้องมาทุกครั้งเพราะผู้ปกครองสอนมา ผู้สอนก็อาจเข้าใจได้ว่าแผน / สื่อ / การอธิบายของตนดีแล้ว จึงขอความกรุณาผู้ปกครองได้สะท้อนความเห็นมายังผู้บริหารด้วย ถือเป็นการช่วยตรวจสอบได้อย่างทั่วถึง

 

 

 

 

·     มาตรฐานการจบช่วงชั้น  โรงเรียนฯ ได้กำหนดมาตรฐานการจบช่วงชั้นไว้อย่างเป็นระบบ  ดังได้แจ้งท่านตั้งแต่วันประชุมผู้ปกครองแรกเข้า  และโรงเรียนฯ ขอเรียนว่า โรงเรียนฯ ใส่ใจที่จะผลักดันให้นักเรียนปฏิบัติให้ได้ตามที่กำหนด  โดยเฉพาะเมื่อจบชั้น ป.6 และ ม.ซึ่งยังมีนักเรียนที่น่าห่วงอยู่หลายคนที่ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจแต่เล็กและขาดความร่วมมือในการร่วมแก้ไขจากผู้ปกครอง ซึ่งส่งผลให้เห็นชัดเจนเมื่อขึ้นสู่ชั้นสูงขึ้น  คือขาดวินัย  ความรับผิดชอบ และแรงขับสู่ความสำเร็จจากภายใน  ตลอดจนความสามารถในการสู้อุปสรรคชีวิต  ก็ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองที่ลูกยังเล็ก  และยังไม่เริ่มต้นฝึกฝนวินัยตามวัยให้กับลูก  

 

 

·     วันหยุด  เนื่องในวันสำคัญทางพุทธศาสนาทุกครั้ง  นักเรียนที่นับถือศาสนาพุทธ จะมีใบงานเชิญชวนพ่อ-แม่-ผู้มีพระคุณเข้าวัด  ส่วนเด็กศาสนาอื่นก็ไปตามข้อกำหนดของศาสนาตนเอง  ขอได้ให้การสนับสนุนบุตร-หลาน สร้างกุศลผลบุญให้หนุนนำในการทำความดีด้วย  จักขอบคุณยิ่ง

 

 

·     การสอนลูก-หลานให้รู้สิ่งที่ต้องรู้  พบว่าเด็กปัจจุบันขาดการสังเกต เอาแต่ใจ  ทำตัวน่ารักเมื่ออยู่ต่อหน้าครูแต่พยศกับพ่อ-แม่และผู้มีพระคุณ อีกทั้งขาดสัญชาตญาณการระแวงภัยซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทั้งบ้านและโรงเรียนฯต้องเอาใจใส่และฝึกฝน บางคนไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อจริงของพ่อแม่  ไม่รู้ว่าพ่อ-แม่ประกอบอาชีพอะไร เลขที่บ้านอะไร ถนนอะไร เบอร์โทรศัพท์ของพ่อ-แม่เบอร์อะไร ทั้งที่อยู่ในวัย   ที่ควรรู้แล้วฯลฯ ตลอดถึงเรื่องมารยาทการรับประทานอาหาร การคดข้าวใส่จาน การรู้จักรอคอย การเก็บโต๊ะอาหาร ซึ่งโรงเรียนฯได้มีการประเมินเป็นระยะ ก็ขอผู้ปกครองให้ลองประเมินลูก-หลานร่วมกันด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

3. ข่าวจากฝ่ายปกครอง/กิจกรรม

 

 

 

 

·            สื่อสารโรงเรียนฯ – บ้าน โดยปกติโรงเรียนฯจะรายงานภาพรวมของการดำเนินงานด้านต่างๆ ผ่านสื่อ บอกกล่าว เล่าขาน เดือนละ 1 ครั้ง  ส่วนสื่อรายคนผู้สอนจะเป็นผู้รายงาน หากท่านไม่ได้รับการรายงานนานกว่า 2 สัปดาห์ต่อครั้งท่านสามารถสอบถามตรงมายังฝ่ายบริหารได้เช่นเดียวกันเพราะโรงเรียนฯ ถือเป็น“หน้าที่ของผู้สอนที่ต้องรายงาน และ “สิทธิในการรับรู้ของผู้ปกครองเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน ซึ่งผู้สอนจะรายงานทั้งด้านพฤติกรรมการเรียน ผลการเรียน เนื้อหาการเรียนหรือเนื้อหาที่เด็กจะสอบแต่ละครั้งไม่ว่าสอบเก็บคะแนนหรือสอบประจำภาคและอื่น ๆ ที่ควรรายงาน และหากผู้ปกครองได้รับแล้วมีข้อเสนอแนะ ก็จักขอบคุณยิ่ง  ถ้าไม่มีก็ขอเพียงลายเซ็นก็ขอบคุณเช่นกัน

 

 

·            รังสรรค์อาภรณ์ประดับกายในวัยอันเหมาะสม นอกเหนือจากความสามารถทางวิชาการตามวัยแล้ว  การเตรียมพร้อมสั่งสมความสามารถพิเศษ เช่น ดนตรี  กีฬา และความสามารถอื่นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเด็กจะได้ทั้งวินัย ความอดทน ความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะการเรียนเปียโนและไวโอลิน ที่โรงเรียนฯมีครูที่เชี่ยวชาญและจบจากสถาบันด้านดนตรีอันดับหนึ่งของประเทศโดยตรง หากสนใจให้ลูกหลานเรียนเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์

 

 

 

 

·            การจราจรในโรงเรียนฯ  ต้องขออภัยสำหรับความไม่สะดวกในระยะนี้ ที่มีการปรับเปลี่ยนสถานที่ส่งเด็กเป็นระยะ โดยปกติอนุบาล-ประถมต้นจะรอที่ประตู 1 และ ประถมปลาย–มัธยมจะรอที่หน้าอาคารเคมบริดจ์ฯ แต่อย่างไรก็ดีขอความกรุณาผู้ปกครองตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยม ดังนี้

 

 

* นัดหมายสถานที่กับเด็กให้ชัดว่าเป็นด้านโรงเรียนนานาชาติเคมบริดจ์ฯ  หรือประตู 1

 

* จอดรถตรงที่ให้จอด และเข้าซองให้ถูกต้อง  ไม่จอดรถหัวมุมเลี้ยว หรือเกะกะทางรถคันอื่น

 

* เปิดกระจกให้ครู-เด็กมองเห็นหน้า เมื่อขับมาระยะที่จะรับเด็ก

 

 

 

    * ฝึกเด็กให้จำรถของตนให้ได้ เช่น ยี่ห้อ  สีและที่สำคัญคือหมายเลขทะเบียนรถ

 

 

 

 * เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี  ต้องนั่งเบาะหลัง และรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง

 

 * ปิดประตูรถให้เรียบร้อย  ก่อนออกรถ  โดยเฉพาะรถที่รับเด็กเล็ก

 

 

 

4. ข่าวสำหรับผู้ปกครองระดับอนุบาล ทั้ง  2แห่ง

 

          ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีที่ท่านให้เราได้มีโอกาสวางรากฐานที่จำเป็นสำหรับเด็กแต่เยาว์วัยอีกครั้ง  ซึ่งแน่นอนว่ากว่าเราจะเก็บเกี่ยวผลแห่งการบ่มเพาะอย่างอดทนนั้น ก็ยาวนานพอสมควร  เด็กเล็กเป็นเหมือนผ้าขาว ที่พร้อมจะซึมซับและเรียนรู้ทุกเรื่องจากการกระทำของผู้ใหญ่ที่ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง  แม้บางครั้งเราจะคิดว่าเจ้าตัวไม่รู้  ดังนั้นในส่วนของโรงเรียนฯที่ต้องเตรียมความพร้อมของเด็ก  หมายถึงการเตรียมให้พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างงดงามพร้อมเลื่อนชั้นไประดับประถมฯได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์  สังคม  จึงขอความร่วมมือในเรื่องจำเป็นๆเบื้องต้นดังนี้ :

 

          - การมาส่งไม่ควรสายเกิน  08.10 น.  เพราะ เป็นเวลาที่เด็กต้องเรียนรู้และฝึกฝนพัฒนาการด้านร่างกายและระเบียบวินัย และการอยู่ร่วมกับเพื่อน  เพราะการมาสายนอกจากเด็กขาดโอกาสการฝึกฝนดังกล่าวแล้ว ยังเสี่ยงต่อการที่ครูต้องเปิดประตูทิ้งไว้อาจเป็นเหตุที่มาของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะปฐมวัยฯ

 

 

 

          - เมื่ออยู่ที่บ้าน ไม่ควรป้อนข้าวเด็ก  เด็ก 3 ขวบแล้ว ต้องสามารถรับประทานอาหารเองได้ เพราะมิได้หมายความเพียงการช่วยเหลือตนเองเท่านั้น  หากแต่คือการพัฒนาประสาททุกส่วนอย่างสัมพันธ์กัน และเวลารับประทานอาหารต้องฝึกให้นั่งกับที่ เริ่มแรกอาจหกเลอะเทอะบ้าง  แต่ในที่สุดจะพัฒนาได้ดี

 

 

           - ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา ตื่นเช้าต้องฝึกให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย รวมถึงการควบคุมการปัสสาวะในเวลานอนด้วย ควรให้ปัสสาวะก่อนนอน และปลุกเมื่อได้เวลาที่ควร  ไม่ควรปล่อยให้ปัสสาวะรดที่นอนจนเคยตัว  เพราะในที่สุดแล้วจะเป็นปมด้อยกับตัวเด็กเอง เพราะเพื่อนๆรุ่นเดียวกันควบคุมได้

 

 

 

       - หัดแต่งกายเอง เช่น การติดกระดุมเสื้อ การสวมรองเท้า การสวมเสื้อและกางเกง-กระโปรงการรูดซิป ด้วยตนเอง เราจะพบความพยามยามความอดทน ของเด็กจากการสังเกตเรื่องการแต่งกายได้โดยง่าย ระหว่างเด็กที่มีความพยายามกับเด็กที่ใจร้อนและไม่มีความอดทน

 

 

          - หัดให้เล่นแล้วรู้จักเก็บของเล่นเอง เพื่อฝึกความรับผิดชอบและจดจำของเล่น/ของใช้ของตนเอง และเห็นค่าของๆ เล่น

 

 

 

          - ไม่นำของเล่นหรืออุปกรณ์ใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนมาโรงเรียนฯ และแบกหรือลากกระเป๋าหนักมาโรงเรียน เพราะโรงเรียนฯได้จัดเตรียมให้หมดแล้ว หากจะนำมาเพื่อใส่หนังสือนิทาน / ชุดว่ายน้ำ ก็ให้เล็กพอเหมาะกับการถือของเด็ก

 

 

          - ผู้ปกครองควรหารือกับครูเป็นระยะหากพบว่ามีปัญหาเพื่อจะได้ร่วมแก้ปัญหาด้วยกัน แต่ทั้งนี้ควรนัดหมายก่อน เพื่อให้ผู้บริหารได้จัดครูลงแทนในขณะครูผู้สอนได้พูดคุยกับผู้ปกครอง เพราะการดูแลเด็กระดับอนุบาลนั้น เราไม่สามารถละสายตาไปทำกิจกรรมอื่นได้ ครูต้องตามติดและอยู่กับเด็กตลอดเวลา

 

 

 

5.      ข่าวจากฝ่ายแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศQQQQ

 

 

 

ฝ่ายแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ  กำลังเปิดรับสมัครนักเรียนเข้าร่วมโครงการฯ มีนาคม-เมษายน2558  ซึ่งหากผู้ปกครองได้ร่วมตัดสินใจกับเด็กและสมัครก่อนแต่เนิ่นๆ การวางแผนเรื่องโปรแกรม ตลอดจนการต่อรองเรื่องต่างๆ ก็จะได้ประโยชน์ต่อเด็กมาก ทั้งเรื่องค่าตั๋วเดินทาง โปรแกรม  และการเลือกสถานที่เรียนทั้งนี้ผู้ปกครองที่มีความพร้อม การสร้างโอกาสให้ลูก-หลานได้เห็นโลกกว้างมากเท่าใด ก็จะเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และการเรียนรู้ เป็นพื้นฐานในการสร้างวิสัยทัศน์และสร้างความมั่นใจให้กับเด็กอย่างได้ผล แต่หากไม่พร้อมก็ไม่ใช่ปัญหาแต่ประการใดซึ่งมีโปรแกรมแต่ละประเทศดังนี้

 

 

 

 

·            ประเทศจีน  เรียนที่เมืองคุนหมิงรับจำนวน  20  คนเท่านั้น  พักหอพักในโรงเรียน 

 

 

 

·            ประเทศอังกฤษหรือนิวซีแลนด์ระยะเวลา 4สัปดาห์ พักกับครอบครัว  ช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน  รายละเอียดจะแจ้งต่อไป

 

 

ผู้สนใจ   ติดต่อขอใบสมัคร ได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์

 

 

 

 

Jขอแสดงความยินดีกับนักเรียนและครูผู้สอนJ

 

 

 

 

 

 

 

 

<รางวัลยอดนักอ่านและผู้ใช้ห้องสมุดสูงสุด ประจำเดือน มิถุนายน  2557

 

1.       เด็กชายอมร                ปัญญาสันติสุข      ชั้นป.6

 

2.       เด็กหญิงทักษพร           เลิศสัมพันธ์สุข      ชั้น ป.3

 

3.       เด็กชายศิรสิทธิ์            ไพรอุดม              ชั้น ป.3

 

 

 

<ครูผู้สอนดีเด่น วิชาภาษาไทย  ประจำปีการศึกษา 2557     จากคุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 1  ซึ่งได้รับการคัดเลือกจำนวน  10  ราย จาก  11  กลุ่มสาระการเรียนรู้  ซึ่งมีครูโรงเรียนธีรธาดา  พิษณุโลก   ที่ได้รับการคัดเลือก

 

 

ได้แก่   นางสาวยุพิน   เหล็กช้าง( ครูประจำชั้น ป.1 )

 

 

 

 

JJJJพบกันใหม่ฉบับหน้าNNNN

 

Theme by Danetsoft and Danang Probo Sayekti inspired by Maksimer